วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

จดหมายผิดซอง

เวลาที่เราจะส่งบัตรอวยพร ส.ค.ส. ให้แก่ใครนั้น เราควรยอมเสียเวลาสักนิดเขียนที่ของผู้ที่เราจะส่งไว้ในการเริ่มต้นของกาสอวยพร จะทำให้คุณมีคุณค่าเพิ่มขึ้นมากที่เดียว แล้วทำอย่างนี้ให้ครบกับทุกคน เพราะเราก็ไม่น่ากลัวเรื่องจดหมายผิดซอง

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

ลูกที่พ่อภาคภูมิใจ

เป็นอีกวันหนึ่งที่พ่อแม่ของเรามีความภาคภูมิใจในเรื่องกิจกรรมทางโรงเรียนที่พ่อและแม่มีความภาคภูมิใจให้กับเราที่เรามีความเพียรพยามเรียนจนจบดั่งความตั้งใจของพ่อและแม่ที่เราได้มีความตั้งใจเรียนการที่เราได้เรียนจนจบดั่งใจหวังแล้วต่อไปจากนี้เราควรมีจิตสามัญสำนึกของการเยี่ยมบ้านเกิดการที่เรานั้นได้ไปเรียนแล้วจบออกมานั้นพ่อแม่ของเราที่อยู่อีที่หนึ่งก็คือครู-อาจารย์ที่เขาก็หวังที่จะให้เราไปส่งข่าวบ้างว่าการที่เขาได้สั่งสอนเรามานั้นเป็นสำเร็จไปถึงจุดหมายของเขาหรือเปล่า

ทัศนคติกุญแจแห่งความสำเร็จ



การนำหลักความรู้มาประกอบอาชีพหลักของการทำงานต้องประกอบไปด้วยความอุตสาหะเอาใจใส่ในงานที่ได้รับผิดชอบ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การมีมนุษยสัมพันธ์ การยึดถือปฏิบัติในหลักธรรม แต่สิ่งสำคัญเบื้องต้นนั้นที่จะต้องมีในการทำงาน คือ ความรู้ ทักษะ และทัศนคติความรู้ เป็นสิ่งที่รู้มาแล้วจากการเรียนในสถาบันแล้วก็สรรหาเพิ่มเติมทักษะ ความชำนานในการทำงานไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธภาพทัศนคติ การมองหรือการคิดต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งในแง่ดีหรือไม่ดีการมีข้อความ 3 ข้อจะช่วยให้เราสามารถประสบผลสำเร็จไม่ว่าจะคิดการสิ่งใดก็ตาม

ตบหัวแล้วรูปหลังหรือรูปหลังแล้วตบหัว

ตบหัวแล้วรูปหลังนี้ส่วนใหญ่จะใช้กันในส่วนเจ้านายที่ชอบทำตัวตี 2 หน้าการตอนที่ลูกน้องนั้นมีความดีก็ทำหน้าดีใส่พอหมดประโยชน์ก็ทำเป็นเชิดใส่การที่คนส่วนใหญ่ทำตัวแบบนี้นั้นเจ้านายส่วนมาไม่ค่อยมีใครจะนับถือกันเท่าไหร่ก็ทำให้เกิดไม่มีความจริงใจกันต่อกันทุกคนจะต้องกลายเป็นคนหน้าไหวหลังหลอกทั้งนั้น

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

ชี้แจงเพื่อความเข้าใจ


เป็นธรรมดาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องมีการต่อต้าน แต่ฝ่ายบริหารไม่ยอมเข้าใจเรื่องนี้ มักมองว่าการต่อต้านเป็นขวากหนามซึ่งต้องกำจัดออกไปจึงใช้วิธีต่างๆในการขจัดคนที่มีแนวคิดต่อต้านเลยไม่ได้นำหลักบริหารแบบมีการเปลี่ยนแปลงมาใช้ เพื่อลดการต่อต้านให้กลายเป็นที่ยอมรับและสนับสนุน

ธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ(ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ)


วัฒนธรรมที่อบรมสั่งสอนกันมาในรูปสุภาสิตที่ว่า “เป็นธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ”
คนไทยได้รับการยกย่องว่าเป็นคนมีน้ำใจในการช่วยเหลือ มีน้ำใจในการต้อนรับแขกชนิดที่ว่า “เลี้ยงดูปูเสื่อ” อย่าชนชาติใดก็สู่คนไทยไม่ได้ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยที่โรงแรมชั้นหนึ่งของเมืองไทย ยึดถือเอาการต้อนรับชั้นเยี่ยมมาเป็นจุดขาย ลูกค้าไม่ได้หมายถึงเฉพาะคนภายนอก ที่มาขอซื้อสินค้าหรือใช้บริการเท่านั้น คนในองค์กรเดียวกันที่มาติดต่อประสานงาน มาขอใช้บริการในแผนกของเรา ถือว่าเป็นลูกค้าด้วยเช่นเดียวกัน

คำพูดดีๆ


การกล่าวแสดงความยินดีนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าวเฉพาะยินดีต้อนรับพนักงานใหม่เท่านั้นแต่สามารถใช้ได้กับการพูดแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ ให้แก่นาย เพื่อน ลูกน้อง ของตัวเราที่เขาได้รับสิ่งดีๆ หรือได้รับเกียจในวาระต่างๆ ส่วนเรื่องที่จะกล่าวแสดงความยินดีพร้อมกับยกย่องชมเชยมี 3 เรื่องคือ
1. ขอแสดงความชื่นชมในความรู้ความสามารถของเขา
2. ขอต้อนรับเขาในการที่เข้ามาเป็นสมาชิกของกลุ่ม
3. ขอฝากอนาคตของส่วนงานหรือพนักงานไว้กับบุคคลนั้น

สุดท้ายเราก็มาคิดดูสิว่าคนที่เราได้รับการยอมรับให้เป็นผู้ดูแลอนาคตของส่วนงานหรือเพื่อนร่วมงาน เขาจะไม่ทุ่มเทชีวิตให้กับการทำงานเชียวหรือ

ลุกน้องหวังอะไรจากการทำงาน



เช้าชามเย็นชาม
แต่สิ่งสำคัญที่ลูกน้องต้องการจากนายคือ ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจต่างหาก

ลูกน้องที่รู้สึกว่าเขาได้การยอมรับ ได้ความน่าเชื่อถือจากนาย จะภาคภูมิใจที่ได้รับรู้ความคาดหวังที่นายไว้วางใจเขา คงไม่มีใครหรอกที่จะไม่สนใจความคาดหวังของคนอื่นในสิ่งที่ดีของตัวเขา เขาจะไม่ทำให้คนที่คาดหวังในการทำดีผิดหวัง และผลจากการทำงานได้อย่างดีนั้นแหละ จะเป็นผลตามมาของการได้เลื่อนขั้นเงินเดือนที่ดี
ถ้าเราได้ใช้คำสั่งมอบหมายงานแก่ลูกน้องในทำนองนี้แล้ว มีหรือที่ลูกน้องจะทำงานอย่างทุ่มสุดตัวให้แก่เรา

หน้าที่กับความถูกต้อง



โลกของชีวิตส่วนตัวกับโลกของการทำงานนั้นแตกต่างกัน ในโลกส่วนตัวเรานั้นอาจจะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องความเห็นเราได้เสมอ แต่โลกของการทำงานไม่เป็นอย่างนั้น
ระหว่างความถูกต้องกับการทำตามคำสั่งของคนที่มีอำนาจ คนเราพร้อมที่จะทำตามคำสั่งของคนที่มีอำนาจมากกว่าเราต้องหยุดแล้วคิดพิจารณาทบทวนให้ดี ถึงบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทำดังนั้นเราไม่ควรตำหนิคนที่ทำตามหน้าที่หรือทำตามคำสั่งเลยถึงแม้ว่าเราจะเห็นว่าเป็นการทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องจงคิดเสียว่าเขาได้ทำตามคำสั่งอีกที

ความเป็นจริงของชีวิต



การมีความเป็นจริงของชีวิตนั้นเราสามารถกำหนดได้ด้วยตัวเองว่าการที่เราใช้ชีวิตในวงสังคมนั้นเราต้องใช้การกระทำของตัวเองเป็นหลักในการใช้ชีวิตของบุคคลแต่ละคนนั้นไม่ได้มาจากเพื่อนพ้องพี่น้องท้องเดียวกันต่างๆมาจากต่างถิ่นต่างแดนซึ่งจะนำให้บุคคลนั้นมารู้จักกันเป็นไปได้แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการทำความรู้จักกันโดยต้องใช้หลักความเป็นจริงของชีวิตใช้ดำเนินการในชีวิตต่อไป